High Output Management

โดย: Andrew Grove

High Output Management

แนวคิดพื้นฐานของหนังสือเล่มนี้คือ ผลผลิตของผู้จัดการ = ผลผลิตขององค์กรของเขา + ผลผลิตขององค์กรใกล้เคียงที่อยู่ภายใต้อิธิพลของเขา หนังสือเล่มนี้ถือเป็นหนึ่งในผลงานที่มีอิธิพลมากที่สุดในแวดวงการจัดการ โดยเฉพาะในวงการเทคโนโลยี Silicon Valley

หลักการหลักของการจัดการ

1. แนวทาง Output-Oriented

Andrew Grove ใช้หลักการการผลิตมาประยุกต์ใช้กับการจัดการ โดยเน้นที่ผลลัพธ์ที่ออกมาแทนที่จะมองแค่กระบวนการ เขาใช้ตัวอย่าง “Breakfast Factory” เพื่ออธิบายแนวคิดการผลิตในบริบทของการจัดการ

2. Managerial Leverage (การใช้อิทธิพลในการจัดการ)

กิจกรรมที่มี leverage สูงจะสร้างผลผลิตระดับสูง โดยสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภท:

  • เมื่อผู้คนจำนวนมากได้รับผลกระทบจากผู้จัดการคนหนึ่ง
  • เมื่อกิจกรรมของผู้จัดการมีผลต่อกิจกรรมของทีมในระยะเวลายาว
  • เมื่อผู้จัดการให้ข้อมูลที่มีค่าที่ทำให้ทีมทำงานได้ดีขึ้น

3. Task-Relevant Maturity (TRM)

แนวคิดที่กำหนดระดับการมีส่วนร่วมของผู้จัดการตามความเป็นผู้ใหญ่ในงานของลูกน้อง:

  • ความเป็นผู้ใหญ่ต่ำ: ต้องการการสั่งการที่ชัดเจน
  • ความเป็นผู้ใหญ่ปานกลาง: ต้องการการโค้ชและการสนับสนุน
  • ความเป็นผู้ใหญ่สูง: สามารถมอบหมายงานได้โดยตรง

กิจกรรม High-Leverage สำคัญ

การประชุม One-on-One

การประชุมแบบตัวต่อตัวเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการเพิ่ม leverage ของผู้จัดการ มีจุดประสงค์เพื่อ:

  • เพิ่มผลผลิตโดยรวม
  • สร้างความเข้าใจและการสื่อสار
  • ให้ feedback และการสนับสนุน

การฝึกอบรม (Training)

การฝึกอบรมเป็นกิจกรรม leverage สูงที่สุดอย่างหนึ่งที่ผู้จัดการสามารถทำได้:

  • ต้องเชื่อมโยงกับการทำงานจริงในองค์กร
  • เป็นกระบวนการต่อเนื่อง ไม่ใช่เหตุการณ์ครั้งเดียว
  • ต้องมีผู้ที่เป็น role model ที่เหมาะสมเป็นผู้ฝึกสอน

การประเมินผลงาน

การประเมินผลงานเป็นรูปแบบสำคัญที่สุดของ task-relevant feedback:

  • ใช้เพื่อปรับปรุงผลงานโดยการระบุทักษะที่ต้องพัฒนา
  • เสริมสร้างแรงจูงใจในการทำงาน
  • เป็นโอกาสในการสื่อสารเป้าหมายและความคาดหวัง

การจัดการกับความซับซ้อนขององค์กร

Grove’s Law

องค์กรขนาดใหญ่ทั้งหมดที่มีวัตถุประสงค์ทางธุรกิจร่วมกันจะมีโครงสร้างแบบผสม (hybrid organizational form) ระหว่างการรวมศูนย์และการกระจายอำนาจ

3 โหมดของการควบคุม

  1. Market Forces: แรงขับเคลื่อนจากตลาด
  2. Contractual Obligations: ภาระผูกพันตามสัญญา
  3. Cultural Values: ค่านิยมและวัฒนธรรมองค์กร

แรงจูงใจและการสร้างแรงบันดาลใจ

Grove อธิบายว่าคนเราถูกกระตุ้นโดยสองสิ่งหลัก:

  • Achievement: ต้องการเอาชนะคนอื่น
  • Competence: ต้องการเอาชนะตัวเอง พัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น

อิทธิพลต่อ Silicon Valley

แม้ว่าหนังสือเล่มนี้จะไม่เคยติด bestseller list ในช่วงทศวรรษ 1980s และ 1990s แต่กลับกลายเป็น cult classic ใน Silicon Valley ในภายหลัง ผู้นำเทคโนโลยีชื่อดังหลายคนยกย่องอิทธิพลของหนังสือเล่มนี้ เช่น:

  • Mark Zuckerberg (Meta)
  • Evan Williams (Twitter)
  • Brian Chesky (Airbnb)

ความเกี่ยวข้องในยุคปัจจุบัน

หนังสือเล่มนี้ยังคงมีความเกี่ยวข้องในยุคปัจจุบันเพราะมองการจัดการเป็น “hard skill” ที่เน้น:

  • Outputs: ผลผลิตที่วัดได้
  • Objectives: วัตถุประสงค์ที่ชัดเจน
  • Results: ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม

เป็นแนวทางการจัดการแบบ systematic และ engineering-based ที่มีอิธิพลต่อผู้นำหลายรุ่นใน Silicon Valley และทั่วโลก

บทเรียนสำคัญ

  1. ผู้จัดการคือตัวคูณ (Multiplier): ผู้จัดการที่ดีจะขยายผลงานของทีม ผู้จัดการที่ไม่ดีจะลดทอนประสิทธิภาพ
  2. มุ่งเน้นที่ผลลัพธ์: ใช้หลักการการผลิตมาปรับปรุงการจัดการ
  3. Leverage คือกุญแจสำคัญ: มองหากิจกรรมที่สร้างผลกระทบสูงสุด
  4. การสื่อสารเป็นเครื่องมือสำคัญ: One-on-one และ feedback เป็นพื้นฐานของการจัดการที่ดี

หนังสือเล่มนี้ไม่เพียงแค่เป็นคู่มือการจัดการ แต่เป็นปรัชญาการทำงานที่ช่วยสร้างวัฒนธรรมการทำงานแบบ Silicon Valley ที่เน้นประสิทธิภาพ ผลลัพธ์ และการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง