แว่นเมต้า เรย์-แบน กับการทำงานกว่า 10 ปีของพี่มาร์ค
Mark Zuckerberg โพสต์รูปตัวเองใส่ Meta Ray-Ban Display พร้อมข้อความสั้น ๆ หลังเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของเขา
“Been working toward this moment for over a decade.” - ทำเรื่องนี้มามากกว่า 10 ปี รอเวลานี้มานานแล้วว่างั้น
สำหรับหลายคน มันไม่ใช่แค่การเปิดตัวสินค้าใหม่ แต่คือบทพิสูจน์การเดินทางที่เริ่มจากการ “เล่นใหญ่ที่สุด” ในชีวิตการบริหารของเขา
📌 จุดเปลี่ยน: จาก Facebook สู่ Meta
ตุลาคม 2021 มาร์คประกาศเปลี่ยนชื่อ Facebook Inc. เป็น Meta Platforms Inc. เพื่อประกาศวิสัยทัศน์ “Metaverse” ว่าเป็นอนาคตอินเทอร์เน็ต
ขณะนั้นถูกมองว่าเป็นการ “เทหมดหน้าตัก” ของบริษัท ทุ่มเงินลงทุนใน Reality Labs นับหมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี
แต่เสียงวิจารณ์กลับถาโถม: นักลงทุนกังวล, นักวิเคราะห์บอกว่ามันคือ “การเบี่ยงเบนความสนใจจากปัญหาหลัก” ของ Facebook อย่างเรื่องข้อมูลและความเป็นส่วนตัว

🤜🏻😵 Metaverse: จากความหวัง สู่ของเล่นราคาแพง? ช่วงปี 2022–2024 โลกยังไม่เห็น Metaverse ที่จับต้องได้
ผลประกอบการ Reality Labs ขาดทุนรวมหลายหมื่นล้านดอลลาร์
แพลตฟอร์ม Horizon Worlds ถูกวิจารณ์ว่า “โล่ง + ร้าง” มีผู้ใช้จริงจำนวนน้อย
สื่อบางสำนักถึงกับเรียก Metaverse ว่าเป็น “ของเล่นราคาแพง” ที่ยังหาคนเล่นไม่เจอ
Meta ในเวลานั้นเหมือน “นักมายากลที่โชว์กล่องวิเศษ แต่ยังเปิดให้ใครดูไม่ได้ว่ามีอะไรอยู่ข้างใน”
🏛️ จุดพลิก: กลับสู่แว่นตา
หลังทศวรรษของความพยายาม Meta เปิดตัว Ray-Ban Display: เลนส์โปร่งใสพร้อมจอสี แสดงข้อความ แปลภาษา และโทรแบบ AR การทำงานร่วมกับ AI ของ Meta ในราคา 799 ดอลลาร์ (ประมาณ 29,200 บาท)

แต่บนเวทีเปิดตัวกลับไม่ราบรื่น เดโมวิดีโอคอลล้มเหลว จนมาร์คต้องยอมรับกลางงานว่า “ผมไม่รู้จะพูดอะไรดี” (Reuters, 18 ก.ย. 2025)
เดิมพันที่ยังไม่รู้คำตอบ จากการเปลี่ยนชื่อบริษัทไปจนถึงการเปิดตัวแว่นใหม่ ทุกก้าวสะท้อนการ “เล่นใหญ่” ของ มาร์ค ที่เลือกเสี่ยงมากกว่าถอย สำหรับบางคน นี่คือก้าวแรกของแพลตฟอร์มใหม่ สำหรับบางคน มันยังคงเป็นเพียง ของเล่นราคาแพง
แต่คำถามยังคงอยู่: ผู้ใช้ทั่วไปพร้อมหรือยังสำหรับอนาคตแบบที่เขาวาดไว้?