แจกฟรี 💸 หนังสือ How to Market a Book
แจกฟรี 💸 หนังสือ How to Market a Book โดย Ricardo Fayet
การเขียนหนังสือว่ายากแล้ว แต่การตลาดหนังสือนี่ยากกว่าเขียนอีก? 😅
หลายคนคงเคยคิดแบบนี้ “เอาแค่เขียนหนังสือให้เสร็จ แล้วโปรโมท เดี๋ยวคนก็มาซื้อ” แต่เอาจริงๆ มันไม่ใช่แค่นั้นครับ แต่ทุกวันนี้มีหนังสือใหม่เกิดขึ้นกี่เล่มต่อวัน? ไหนจะต้องแข่งกับบทความอ่านฟรีในโซเชียลอีก 😱 ในทะเลบทความแบบนี้ หนังสือจะยังขายได้อยู่ไหม? นั่นแหละคือความท้าทายที่นักเขียนทุกคนต้องเจอ
Ricardo Fayet ผู้ร่วมก่อตั้ง Reedsy ที่เป็นชุมชนนักเขียนมากกว่า 150,000 คน ให้ประสบความสำเร็จ เขาได้บันทึกเคล็ดลับและกลยุทธ์ที่ได้ผลจริงไว้ในหนังสือ “How to Market a Book”
Reedsy นี่เป็นแพลตฟอร์ม marketplace ออนไลน์ ที่เชื่อมต่อผู้เขียน (โดยเฉพาะสาย self-publishing) กับมืออาชีพระดับพรีเมียมในวงการหนังสือ เช่น บรรณาธิการ, ดีไซเนอร์, นักการตลาด, นักเขียนรับจ้าง, นักแปล และผู้พัฒนาเว็บไซต์ เป็นชุมชนคนรักการเขียนหนังสือขนาดใหญ่ วันนี้เราจะมาดูกันว่าเทคนิค เหล่านี้จะนำมาปรับใช้กับตลาดหนังสือไทยได้ยังไง 🚀 ที่สำคัญ หนังสือเล่มนี้แจกฟรี! โหลดได้เลยใน Amazon Kindle
📘 หนังสือหนา 334 หน้า เล่าเรื่องเยอะมาก
- การเปลี่ยนแปลงมายเซ็ตเพื่อขายหนังสือได้มากขึ้นด้วยความพยายามที่น้อยลง
- วิธีการเขียนหนังสือที่รับประกันความสำเร็จในระยะยาว
- เทคนิคการใช้ Amazon Kindle Store ให้ช่วยตลาดหนังสือของคุณ
- วิธีสร้างรายชื่ออีเมลหลายพันคนก่อนออกหนังสือ
- กลยุทธ์การผลักดันหนังสือขึ้นชาร์ตในวันเปิดตัว
- การทำระบบการตลาดแบบอัตโนมัติ ทำไมการตลาดหนังสือถึงทำให้นักเขียนปวดหัว? 🤯 เคยรู้สึกไหมว่าการตลาดหนังสือเหมือนงานเต็มเวลาอีกงานหนึ่ง? เค้าบอกว่าต้องทำ
- โซเชียลมีเดีย (โพสต์ทุกวัน!) 📱
- บล็อกทัวร์ (หาบล็อกเกอร์มารีวิว) ✍️
- การโฆษณา (เผาเงินใน Facebook Ads) 💸
- การลดราคา (ทำโปรโมชั่น) 🏷️
- รายชื่ออีเมล (ส่งนิวส์เลตเตอร์) 📧
- การแจกของ (จัดกิจกรรม Giveaway) 🎁
แค่อ่านก็เหนื่อยแล้ว ทำจริงๆ ยิ่งจะแย่ไปใหญ่!
แต่หนังสือเล่มนี้บอกว่า 🤫 คุณไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่างเหล่านี้เพื่อให้หนังสือประสบความสำเร็จ ที่คุณต้องการคือการหา 1-2 กลยุทธ์ที่ใช่สำหรับคุณ แล้วทำให้มันได้ผลสุดๆ! ไม่ต้องทำทุกอย่าง แค่ทำสิ่งที่ถูกต้องก็พอ ✨ มันเหมือนกับการทำอาหาร ไม่ต้องเป็นเชฟมิชลินสตาร์ แค่ทำข้าวผัดให้อร่อยสุดๆ สักจานก็มีคนมาซื้อแล้ว! 🍳
ปัญหาหลักที่พบบ่อย
-
คิดว่า “ทุกคนจะชอบหนังสือฉัน” 🌍
เพราะคนเขียนใช้เวลาหลายเดือน หลายปี เขียนหนังสือ แน่นอนว่าเราจะคิดว่ามันเจ๋งมาก ทุกคนต้องชอบแน่ๆ! แต่ความจริงคือ ไม่มีหนังสือไหนที่ทุกคนชอบหรอกครับ แม้แต่ Harry Potter ยังมีคนไม่ชอบเลย เค้าบอกว่า “Better to be loved by few than liked by many” การมี 1,000 คนที่รักหนังสือเราจริงๆ ดีกว่าการมี 10,000 คนที่แค่รู้จักแต่ไม่ได้สนใจ
-
รอจนหนังสือเสร็จ 100% ค่อยเริ่มตลาด ⏰ นี่เป็นข้อผิดพลาดใหญ่มากครับ! เหมือนกับการเตรียมงานแต่งงาน แล้วไปหาช่างภาพวันงาน 😅 ลองคิดดูสิ หนังสือของ Stephen King หรือ Haruki Murakami มีคนรอ Pre-order กันก่อนออกหลายเดือนเลย ทำไม? เพราะพวกเขาสร้างความคาดหวังก่อนหนังสือออก!
การตลาดที่ดีเริ่มตั้งแต่ตอนที่เรายังเขียนอยู่ ไม่ใช่ตอนที่เขียนเสร็จแล้ว -
ทำทุกอย่างพร้อมกัน (แล้วเหนื่อยตาย) 😵💫 นักเขียนหลายท่านพยายามทำทุกอย่างพร้อมกัน
- เช้าตื่นมาโพสต์ Instagram
- กลางวันตอบ comment Facebook
- บ่ายเขียนบล็อก
- เย็นส่ง email newsletter
- ดึกทำ TikTok ผลลัพธ์? เหนื่อยมาก แต่ยอดขายไม่เพิ่ม เพราะทำทุกอย่างแต่ไม่มีอะไรได้ผลดีจริงๆ มันเหมือนการเล่นกีฬา 10 ชนิดพร้อมกัน แทนที่จะเจาะลึกกีฬาหนึ่งให้เก่ง
- ทำไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้ว่าได้ผลมั้ย 📊 นี่คือข้อผิดพลาดที่ทำให้เสียเงินมากที่สุด! ลองถามตัวเองดู
- รู้ไหมว่าโพสต์ไหนบน Facebook ทำให้มีคนซื้อหนังสือ?
- รู้ไหมว่าเงินที่ใช้โฆษณาได้ผลจริงมั้ย?
- รู้ไหมว่า email ที่ส่งไปมีคนเปิดอ่านกี่คน? ถ้าตอบไม่ได้ แสดงว่าคุณกำลังขับรถในคืนข้างแรม มืดสนิท! เปลี่ยนความคิด เปลี่ยนชีวิต: ขายหนังสือได้มากขึ้นด้วยความพยายามน้อยลง! 🧠✨
หลักการทองคำ: Quality Over Quantity! 👑
Ricardo Fayet บอกว่า “แทนที่จะกระจายแรงทำ 10 อย่างแต่ได้ผลห่วยๆ ให้เลือก 1-2 อย่างแล้วทำให้เก่งสุดๆ!” เหมือนกับนักกีฬาโอลิมปิกไง ไม่มีใครไปแข่ง 20 กีฬาพร้อมกัน แต่เลือกกีฬาเดียวแล้วฝึกจนเป็นที่ 1 ของโลก! 🥇
- จาก “ขาย ขาย ขาย!” เป็น “เฟรนด์กันก่อนมั้ย?” 🤝 แทนที่จะไปตะโกนว่า “ซื้อหนังสือฉันสิ!” ให้ลองคิดว่าเราจะทำความรู้จักกับคนที่อาจจะชอบงานเราได้ยังไง เหมือนการจีบแฟนไง ไม่มีใครไปขอแต่งงานตั้งแต่เจอกันครั้งแรกใช่มั้ย? 😂 ต้องคุยกัน เข้าใจกัน สร้างความไว้วางใจกันก่อน แล้วค่อยๆ แนะนำหนังสือของเราให้เขารู้จัก
- จาก “ขายหนังสือเล่มเดียว” เป็น “สร้างแบรนด์ตัวเอง” 👤 Stephen King ขายหนังสือได้ดีเพราะหนังสือเล่มนั้นๆ หรือเพราะเขาคือ “Stephen King”? คำตอบคือ เพราะเขาคือ Stephen King! คนรู้จักชื่อเขา เชื่อใจเขา และรู้ว่าหนังสือของเขาต้องดี การสร้างแบรนด์ตัวเองคือการลงทุนระยะยาว หนังสือเล่มแรกอาจขายไม่ดี แต่เมื่อคนเริ่มรู้จักคุณแล้ว หนังสือเล่มต่อๆ ไปจะขายง่ายขึ้นเรื่อยๆ! 📈
- จาก “ทำทุกอย่าง” เป็น “เลือกทำสิ่งที่คุ้มที่สุด” 🎯 นี่คือเคล็ดลับสำคัญ แทนที่จะเสียเวลา 1 ชั่วโมงทำ 6 อย่าง (แต่ละอย่างได้ผล 10%) ให้เอาเวลา 1 ชั่วโมงนั้นทำ 1 อย่าง แต่ได้ผล 80%! เหมือนการปลูกต้นไม้ ถ้าคุณปลูก 10 ต้นแต่รดน้ำต้นละนิดหน่อย ทุกต้นจะตาย แต่ถ้าคุณปลูก 2 ต้นแล้วดูแลดีๆ ต้นไม้จะงามและให้ผลผลิตเยอะ! 🌳 เขียนหนังสือที่ขายได้ดี: เริ่มที่นี่! 📚✨ ก่อนจะเขียน… ต้องสำรวจตลาดก่อน! 🔍 ขั้นตอนที่ 1: ไปดูกันหน่อยว่าคนอยากอ่านอะไร ก่อนจะเขียนหนังสือ ลองถามตัวเองก่อน
- “หนังสือแนวไหนที่กำลังฮิตตอนนี้?” 📈
- “คนที่จะอ่านหนังสือเรามีปัญหาอะไรที่อยากแก้?” 🤔
- “มีใครเขียนหนังสือแบบที่เราจะเขียนบ้างมั้ย? ถ้ามี แล้วเราจะแตกต่างยังไง?” 💡
เหมือนกับเปิดร้านอาหารไง ต้องดูก่อนว่าแถวนี้คนชอบกินอะไร ร้านไหนขายดี แล้วเราจะทำอะไรให้พิเศษกว่าคนอื่น
ขั้นตอนที่ 2: หาตำแหน่งของหนังสือเรา (แล้วมันพิเศษตรงไหน?)
🎪 สามคำถามทองคำที่ต้องตอบได้
- “หนังสือเรา ต่าง จากหนังสือคนอื่นยังไง?” ถ้าตอบว่า “ไม่ต่าง” แล้วจะขายได้ยังไง? 😅
- “ใครคือคนที่จะซื้อหนังสือเราจริงๆ?” อย่าตอบว่า “ทุกคน” นะครับ แม้แต่ข้าวผัดก็ไม่ใช่ทุกคนชอบ
- “เราให้อะไรได้ที่คนอื่นให้ไม่ได้?”
อาจจะเป็นประสบการณ์ เทคนิค มุมมอง หรือแม้แต่รูปแบบการเล่าที่เป็นเอกลักษณ์
ขั้นตอนที่ 3: เปิดฮุกให้จับใจคน (Hook ที่ทำให้อยากอ่าน!) 🪝
ลองดูตัวอย่างนี้ แบบน่าเบื่อ: “หนังสือเล่มนี้เล่าเรื่องการบริหารธุรกิจ” แบบน่าสนใจ: “ทำไมธุรกิจ 90% ถึงล้มเหลวในปีแรก? และคุณจะเป็น 10% ที่เหลือได้ยังไง?” เห็นความแตกต่างมั้ย? อันที่สองทำให้เราอยากรู้ต่อใช่มั้ย? 🤔
สูตรสำเร็จ
- คำบรรยายที่ทำให้คนขนลุก
- ปกหนังสือที่ดูแล้วรู้เลยว่าเล่าเรื่องอะไร
- หัวข้อที่ทำให้คนอยากกดซื้อทันที
การสร้างแบรนด์ส่วนตัว
การกำหนดเอกลักษณ์ผู้เขียน
- ความเชี่ยวชาญ: คุณเชี่ยวชาญด้านอะไร
- ความน่าเชื่อถือ: ทำไมคนควรเชื่อคุณ
- บุคลิกภาพ: ลักษณะเฉพาะที่ทำให้คุณแตกต่าง การสร้างเนื้อหาที่สอดคล้อง
- เขียนบล็อกหรือโพสต์ที่แสดงความเชี่ยวชาญ
- แบ่งปันเบื้องหลังการเขียน
- สร้างเนื้อหาที่มีประโยชน์ฟรีๆ เนื่องจากหนังสือหนา 334 หน้า อยากอธิบายให้ครบทั้งเล่ม แต่คงต้องทำต่อที่เว็บไซต์แทน ฝากกดติดตามกันไว้ก่อนนะครับ เพื่อจะได้อ่านเนื้อหาดีๆทุกวัน และจะคอยอัตเดตความคืบหน้ากันด้วยครับ 😆🙏