Mike Abrashoff

Captain Mike Abrashoff เป็นหนึ่งในผู้นำที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ทันสมัยของกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา เขากลายเป็นตำนานเมื่อสามารถเปลี่ยนแปลง USS Benfold จากเรือที่มีปัญหามากมายให้กลายเป็นเรือที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในกองเรือ ด้วยปรัชญาการนำที่เน้นการให้อำนาจแก่ลูกน้อง การสร้างวัฒนธรรมแห่งความไว้วางใจ และการมุ่งเน้นผลลัพธ์

ประวัติทหารและความสำเร็จ

การเริ่มต้นในกองทัพเรือ

Abrashoff จบการศึกษาจาก U.S. Naval Academy ในปี 1982 และได้รับประสบการณ์การทำงานในตำแหน่งต่างๆ รวมทั้งเป็นผู้ช่วยของ Secretary of Defense William Perry ประสบการณ์นี้ทำให้เขาเข้าใจทั้งระดับยุทธศาสตร์และปฏิบัติการ

USS Benfold: การเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่ง

ในปี 1997 Abrashoff ได้รับแต่งตั้งให้เป็นกัปตันของ USS Benfold เรือพิฆาตที่มีปัญหา:

  • Turnover rate สูง (28% ต่อปี)
  • Morale ต่ำ
  • Performance ไม่ดี
  • วัฒนธรรมการทำงานที่เป็นปัญหา

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น: ภายใน 20 เดือนภายใต้การนำของ Abrashoff:

  • Turnover rate ลดลงเหลือ 1%
  • USS Benfold ได้รับรางวัล Spokane Trophy เป็นเรือที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
  • กลายเป็นเรือต้นแบบสำหรับการฝึกอบรมผู้นำ
  • ประหยัดงบประมาณได้หลายล้านดอลลาร์

ปรัชญาการนำ: “It’s Your Ship”

หลักการสำคัญ

Abrashoff พัฒนาปรัชญาการนำที่เรียกว่า “It’s Your Ship” ซึ่งมีหลักการหลักดังนี้:

1. Take Command

การรับผิดชอบเต็มที่:

  • ผู้นำต้องรับผิดชอบต่อทุกอย่างที่เกิดขึ้นในองค์กร
  • ไม่โยนความผิดให้ผู้อื่น
  • สร้างมาตรฐานที่สูงด้วยตัวอย่างที่ดี

2. Listen Aggressively

การฟังอย่างกระตือรือร้น:

  • ใช้เวลา 1-on-1 กับทุกลูกน้อง
  • สร้างช่องทางให้คนพูดความจริง
  • ปฏิบัติตามข้อเสนอแนะที่ดี

3. Communicate Purpose and Meaning

การสื่อสารเป้าหมายและความหมาย:

  • ทำให้ทุกคนเข้าใจว่าทำไมงานของพวกเขาถึงสำคัญ
  • เชื่อมโยงงานประจำวันกับภารกิจใหญ่
  • สร้างความรู้สึกภาคภูมิใจในงาน

4. Create a Climate of Trust

การสร้างบรรยากาศแห่งความไว้วางใจ:

  • ให้อำนาจการตัดสินใจแก่ลูกน้อง
  • สนับสนุนการเสี่ยงที่สมเหตุสมผล
  • ไม่ลงโทษคนที่ทำผิดพลาดจากการลองทำสิ่งใหม่

5. Look for Results, Not Salutes

มุ่งเน้นผลลัพธ์ ไม่ใช่การเชื่อฟัง:

  • วัดความสำเร็จจากผลงาน ไม่ใช่การปฏิบัติตามคำสั่ง
  • ให้เสรีภาพในวิธีการทำงาน
  • รางวัลและยกย่องผลงานที่ดี

นวัตกรรมในการบริหารคน

การปฏิรูประบบการทำงาน

Elimination of Bureaucracy:

  • ลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น
  • ให้อำนาจการอนุมัติในระดับที่เหมาะสม
  • เน้น speed of execution

Cross-Training Programs:

  • ฝึกลูกน้องให้ทำงานได้หลายตำแหน่ง
  • สร้างความเข้าใจในงานของแผนกอื่น
  • เพิ่มความยืดหยุ่นในการปฏิบัติงาน

การลงทุนในคน

Education and Development:

  • สนับสนุนการเรียนต่อของลูกน้อง
  • จัดโปรแกรมฝึกอบรมภายใน
  • สร้างโอกาสการเติบโตในสายอาชีพ

Recognition Programs:

  • ยกย่องผลงานทันทีที่เห็น
  • สร้างระบบรางวัลที่หลากหลาย
  • เฉลิมฉลองความสำเร็จร่วมกัน

การเปลี่ยนแปลงสู่ภาคเอกชน

การก่อตั้ง GLS Worldwide

หลังจากเกษียณจากกองทัพเรือในปี 2001 Abrashoff ก่อตั้ง GLS (Grassroots Leadership Solutions) Worldwide ซึ่งเป็นบริษัทให้คำปรึกษาด้านภาวะผู้นำและการพัฒนาองค์กร

บริการหลัก:

  • Leadership development programs
  • Organizational transformation consulting
  • Executive coaching
  • Team building workshops

ผลงานการเขียน

หนังสือสำคัญ:

  • “It’s Your Ship” (2002): หนังสือแรกที่ได้รับความนิยมอย่างมาก
  • “Get Your Ship Together” (2008): การประยุกต์หลักการสู่การทำงานเป็นทีม
  • “Never Lead Alone” (2024): ผลงานล่าสุดเกี่ยวกับ collaborative leadership

หลักการ “Never Lead Alone”

Teamship vs Leadership

Abrashoff แนะนำแนวคิดใหม่ที่เรียกว่า “Teamship” ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่าง Leadership และ Partnership:

การเปลี่ยนแปลงมุมมอง:

  • จาก “I lead, you follow” เป็น “We lead together”
  • จาก “Top-down authority” เป็น “Collaborative influence”
  • จาก “Individual heroics” เป็น “Collective success”

องค์ประกอบของ Teamship

1. Shared Leadership

การแบ่งปันภาวะผู้นำ:

  • ทุกคนในทีมเป็นผู้นำในด้านที่ตนเชี่ยวชาญ
  • การหมุนเวียนบทบาทการนำตามสถานการณ์
  • การสร้างผู้นำระดับถัดไป

2. Mutual Accountability

ความรับผิดชอบร่วมกัน:

  • ทุกคนรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ของทีม
  • การให้ feedback แบบ 360 องศา
  • การสร้างวัฒนธรรมแห่งความโปร่งใส

3. Collective Decision Making

การตัดสินใจร่วมกัน:

  • การรวบรวมความคิดเห็นจากทุกฝ่าย
  • การใช้ข้อมูลและข้อเท็จจริงในการตัดสินใจ
  • การสร้าง consensus ที่แท้จริง

4. Continuous Learning

การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง:

  • การทำ after action review ทุกครั้งหลังงานสำคัญ
  • การแชร์บทเรียนและ best practices
  • การปรับปรุงกระบวนการอย่างต่อเนื่อง

การประยุกต์ใช้ในองค์กรธุรกิจ

กรณีศึกษาการเปลี่ยนแปลง

Fortune 500 Company Transformation

Abrashoff ได้ช่วยบริษัทในกลุ่ม Fortune 500 หลายแห่งในการ:

  • ลด turnover rate จาก 35% เป็น 8%
  • เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตขึ้น 25%
  • ปรับปรุง customer satisfaction เป็น 95%+

Startup to Scale-up Journey

ช่วย startup ในการขยายตัว:

  • สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่งตั้งแต่แรก
  • พัฒนาระบบการทำงานที่รองรับการเติบโต
  • ป้องกันการสูญเสียวัฒนธรรมขณะขยายตัว

เครื่องมือและเทคนิค

The Daily Stand-Up

การประชุมสั้นประจำวัน:

  • ทุกคนแชร์สิ่งที่จะทำวันนี้
  • ระบุอุปสรรคที่ต้องการความช่วยเหลือ
  • เฉลิมฉลองความสำเร็จเล็กๆ

The Ownership Audit

การตรวจสอบความรับผิดชอบ:

  • ทุกคนประเมินการรับผิดชอบของตนเอง
  • ระบุพื้นที่ที่ต้องการการพัฒนา
  • สร้างแผนการปรับปรุง

The Innovation Hour

เวลาสำหรับนวัตกรรม:

  • จัดสรรเวลาให้ทีมทดลองไอเดียใหม่
  • สนับสนุนการเสี่ยงที่สร้างสรรค์
  • แชร์ผลการทดลองกับทีมอื่น

ผลกระทบและอิทธิพล

ต่อกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา

หลังจากความสำเร็จของ USS Benfold กองทัพเรือนำหลักการของ Abrashoff ไปใช้อย่างแพร่หลาย:

  • การปฏิรูปการฝึกอบรมผู้บังคับบัญชา
  • การเปลี่ยนแปลง culture จาก command-and-control เป็น collaborative
  • การสร้างโปรแกรม retention ที่มีประสิทธิภาพ

ต่อวงการธุรกิจ

แนวคิดของ Abrashoff มีอิทธิพลต่อการบริหารองค์กรสมัยใหม่:

  • การเปลี่ยนจาก hierarchical เป็น network organization
  • การให้ความสำคัญกับ employee engagement
  • การสร้าง psychological safety ในที่ทำงาน

ต่อการพัฒนาผู้นำ

  • กลายเป็น keynote speaker ชื่อดังระดับโลก
  • มีผู้เข้าร่วม leadership program หลายหมื่นคน
  • ได้รับการยอมรับเป็น thought leader ด้าน transformational leadership

การประยุกต์ใช้ในบริบทไทย

ความท้าทายของ Hierarchical Culture

วัฒนธรรมการเคารพผู้ใหญ่: สังคมไทยมีการเคารพอาวุโสและตำแหน่งสูง ซึ่งอาจขัดแย้งกับแนวคิด shared leadership

การปรับใช้ที่เหมาะสม:

  • เริ่มจากการให้ผู้บริหารระดับสูงเป็นแบบอย่าง
  • สร้างความเข้าใจว่า collaboration ไม่ใช่การท้าทายอำนาจ
  • ใช้แนวคิด “พี่-น้อง” ในการสร้าง teamship

การสร้าง Psychological Safety

“กรุงเทพ” Culture vs “เป็นกันเอง” Culture:

  • ในกรุงเทพมักจะเป็นทางการและระมัดระวังในการพูด
  • ในชนบทมักจะเป็นกันเองและพูดตรงไปตรงมามากกว่า

กลยุทธ์การปรับใช้:

  • สร้างบรรยากาศที่ปลอดภัยในการแสดงความคิดเห็น
  • ใช้วิธีการทางอ้อมในการให้ feedback
  • เน้นการสร้าง “ใจเป็นหนึ่งเดียวกัน”

การจัดการ Face-Saving Culture

ความสำคัญของ “หน้า”: คนไทยให้ความสำคัญกับการรักษาหน้า ทั้งของตนเองและผู้อื่น

การนำหลักการ Abrashoff มาใช้:

  • ให้ feedback แบบส่วนตัวแทนที่จะต่อหน้าคนอื่น
  • เน้นการชมเชยในที่สาธารณะ
  • สร้างโอกาสให้คนแก้ไขข้อผิดพลาดด้วยตนเอง

กรณีศึกษา: บริษัทไทยที่ใช้หลักการ Abrashoff

บริษัทเทคโนโลยีไทย

ปัญหาเริ่มต้น:

  • Turnover rate สูง (40% ต่อปี)
  • Communication gap ระหว่างระดับบริหารและพนักงาน
  • Innovation ต่ำเนื่องจากกลัวทำผิด

การนำหลักการมาใช้:

  • จัด “Coffee Chat” ระหว่างผู้บริหารและพนักงานทุกระดับ
  • สร้าง “Innovation Day” ให้พนักงานเสนอไอเดียใหม่
  • ใช้ “After Action Review” หลังจากโปรเจคต่างๆ

ผลลัพธ์:

  • Turnover rate ลดลงเป็น 15%
  • จำนวน innovation projects เพิ่มขึ้น 200%
  • Employee satisfaction เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

บทเรียนสำคัญ

1. Leadership คือ Service

ผู้นำที่ดีต้องให้บริการทีมของตน ไม่ใช่ใช้ทีมให้บริการตน ผู้นำต้องกำจัดอุปสรรคและสร้างโอกาสให้ทีม

2. People Want to Be Part of Something Bigger

คนต้องการรู้สึกว่าสิ่งที่ตนทำมีความหมายและส่งผลต่อสิ่งที่ใหญ่กว่าตน การสื่อสาร purpose และ meaning เป็นสิ่งสำคัญ

3. Trust เป็นสกุลเงินของการนำ

ไม่มีการนำที่ดีโดยปราศจากความไว้วางใจ ความไว้วางใจต้องสร้างทุกวันแต่สามารถสูญเสียได้ในวันเดียว

4. Results Speak Louder Than Rank

ในที่สุดแล้ว ผลลัพธ์คือสิ่งที่สำคัญที่สุด การมี rank หรือ title ไม่ได้รับประกันความสำเร็จ

5. Everyone Can Lead

ภาวะผู้นำไม่จำกัดอยู่กับตำแหน่งหรืออำนาจ ทุกคนสามารถนำในสิ่งที่ตนเชี่ยวชาญและในสถานการณ์ที่เหมาะสม

สรุป

Mike Abrashoff ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงองค์กรที่ยิ่งใหญ่สามารถเกิดขึ้นได้เมื่อผู้นำเข้าใจว่าภาวะผู้นำที่แท้จริงคือการปลดปล่อยศักยภาพของคนอื่น ไม่ใช่การควบคุมพวกเขา

แนวคิด “Never Lead Alone” เป็นการพัฒนาต่อยอดจาก “It’s Your Ship” โดยเน้นว่าในโลกที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงเร็ว ไม่มีผู้นำคนใดที่จะประสบความสำเร็จได้โดยลำพัง การสร้างทีมที่แข็งแกร่ง การแบ่งปันภาวะผู้นำ และการทำงานร่วมกันอย่างแท้จริงคือกุญแจสู่ความสำเร็จในยุคใหม่

สำหรับองค์กรไทยที่ต้องการปรับตัวให้เข้ากับยุคดิจิทัลและการแข่งขันระดับโลก หลักการของ Abrashoff เป็นแนวทางที่มีคุณค่าในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เข้มแข็ง มีประสิทธิภาพ และยั่งยืน โดยการปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบททางวัฒนธรรมของเรา

บุคคลที่เกี่ยวข้อง

ค้นพบบุคคลอื่นๆ ที่น่าสนใจและสร้างแรงบันดาลใจ

แสดงบุคคล 1- 6 จากทั้งหมด 107 คน (หน้า 1 จาก 18)