Carol Dweck

Carol Dweck: นักจิตวิทยาแห่งการเติบโต

Carol S. Dweck เป็นนักจิตวิทยาสังคมชื่อดังและศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาที่มหาวิทยาลัย Stanford ผลงานวิจัยของเธอเกี่ยวกับ “Growth Mindset” ได้เปลี่ยนแปลงความเข้าใจของเราเกี่ยวกับการเรียนรู้ แรงจูงใจ และความสำเร็จ

จุดเริ่มต้น: จากการสังเกตเด็กสู่การค้นพบ

ชีวิตต้น และการศึกษา

Dweck เติบโตในครอบครัวที่มีพื้นฐานการศึกษาที่ดี ความสนใจในจิตวิทยาการเรียนรู้เริ่มต้นจากการสังเกตพฤติกรรมของเด็กๆ ที่มีการตอบสนองต่อความท้าทายที่แตกต่างกัน

การศึกษา

  • ปริญญาตรี: Barnard College (จิตวิทยา)
  • ปริญญาเอก: Harvard University (จิตวิทยาสังคมและการพัฒนาการ)
  • อาชีพการงาน: Harvard, Columbia, NYU, และปัจจุบันที่ Stanford University

การปฏิวัติความคิดเรื่องความฉลาด

Fixed vs Growth Mindset

Dweck ค้นพบความแตกต่างพื้นฐานในวิธีคิดของคนเกี่ยวกับความสามารถ:

Fixed Mindset (กรอบความคิดแบบตายตัว)

  • เชื่อว่าความฉลาดและความสามารถเป็นสิ่งที่กำหนดมาแล้ว
  • หลีกเลี่ยงความท้าทาย เพื่อไม่ให้ดูโง่
  • มองความผิดพลาดเป็นสิ่งที่แสดงถึงความไร้ความสามารถ
  • รู้สึกคุกคามเมื่อผู้อื่นประสบความสำเร็จ

Growth Mindset (กรอบความคิดแบบเติบโต)

  • เชื่อว่าความสามารถสามารถพัฒนาได้ผ่านความพยายามและการเรียนรู้
  • ยอมรับความท้าทายเป็นโอกาสในการเรียนรู้
  • มองความผิดพลาดเป็นข้อมูลที่มีค่าสำหรับการปรับปรุง
  • ได้แรงบันดาลใจจากความสำเร็จของผู้อื่น

ผลงานวิจัยสำคัญ

การทดลองกับเด็กนักเรียน

การทดลองที่โด่งดัง: Dweck ให้เด็กๆ ทำปริศนาที่ยาก แล้วแบ่งการให้กำลังใจออกเป็น 2 กลุ่ม:

  • กลุ่มที่ 1: “เก่งมาก!” (เน้นความสามารถ)
  • กลุ่มที่ 2: “ตั้งใจทำมาก!” (เน้นความพยายาม)

ผลลัพท์: เด็กที่ได้รับคำชมเรื่องความพยายามมีผลการเรียนที่ดีขึ้น และกล้าที่จะรับความท้าทายใหม่ๆ

การประยุกต์ในด้านต่างๆ

การศึกษา

  • เปลี่ยนวิธีการให้ feedback ในห้องเรียน
  • พัฒนาหลักสูตรที่เน้นกระบวนการเรียนรู้
  • สร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการทดลองและผิดพลาด

การทำงานและองค์กร

  • นำไปใช้ในการพัฒนาพนักงาน
  • สร้าง culture ที่ส่งเสริมการเรียนรู้จากความผิดพลาด
  • เปลี่ยนวิธีการประเมินผลงาน

กีฬาและการแข่งขัน

  • ช่วยนักกีฬาฝ่าฟันอุปสรรคและความล้มเหลว
  • พัฒนาความยืดหยุ่นทางจิตใจ
  • สร้างแรงจูงใจในการฝึกซ้อม

หลักการสำคัญจาก Growth Mindset

1. The Power of “Yet”

การเพิ่มคำว่า “ยัง” ในประโยค:

  • แทนที่จะพูดว่า: “ฉันทำไม่ได้”
  • ให้พูดว่า: “ฉันยังทำไม่ได้”

2. Embrace Challenges (ยอมรับความท้าทาย)

  • มองความท้าทายเป็นโอกาสในการเรียนรู้
  • ออกจาก comfort zone เพื่อการเติบโต
  • ไม่หลีกเลี่ยงงานที่ยาก

3. Learn from Criticism (เรียนรู้จากคำวิจารณ์)

  • รับฟัง feedback อย่างเปิดใจ
  • แยกแยะระหว่าง constructive criticism กับการโจมตีส่วนตัว
  • ใช้คำวิจารณ์เป็นข้อมูลในการปรับปรุง

4. Find Lessons in Setbacks (หาบทเรียนจากความล้มเหลว)

  • วิเคราะห์สาเหตุของความล้มเหลว
  • ปรับกลยุทธ์และลองใหม่
  • ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ

การประยุกต์ใช้ในบริบทไทย

ในระบบการศึกษา

ปัญหาในระบบปัจจุบัน

  • เน้นคะแนนสอบมากกว่ากระบวนการเรียนรู้
  • ความกลัวการทำผิด
  • การแข่งขันที่ไม่เสริมสร้าง

การปรับประยุกต์

  • ให้ความสำคัญกับความพยายาม ไม่ใช่แค่ผลลัพท์
  • สร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับการทดลอง
  • เน้นการเรียนรู้จากความผิดพลาด

ในองค์กรไทย

วัฒนธรรมการทำงาน

  • เปลี่ยนจาก “กลัวผิด” เป็น “กล้าลอง”
  • สร้างการเรียนรู้จากความล้มเหลว
  • ให้ feedback ที่สร้างสรรค์

ความสัมพันธ์ในที่ทำงาน

  • ใช้ภาษาที่ส่งเสริม Growth Mindset
  • สร้างทีมงานที่เรียนรู้ร่วมกัน
  • ยอมรับความหลากหลายในความสามารถ

อิทธิพลต่อการเลี้ยงดูเด็ก

หลักการสำคัญสำหรับผู้ปกครอง

การให้กำลังใจที่ถูกต้อง

  • แทนที่จะพูด: “ลูกเก่งมาก!”
  • ให้พูด: “ลูกพยายามมาก เก็บรายละเอียดได้ดี!”

การสอนให้เผชิญปัญหา

  • ไม่แก้ปัญหาแทนลูก
  • สอนให้วิเคราะห์และหาทางออก
  • ยอมให้ลูกผิดพลาดและเรียนรู้

การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเติบโต

  • บ้านที่ปลอดภัยสำหรับการทดลอง
  • การอ่านหนังสือและเรียนรู้ร่วมกัน
  • แบ่งปันประสบการณ์การเรียนรู้ของผู้ใหญ่

ผลกระทบต่อโลกและสังคม

การเปลี่ยนแปลงในระบบการศึกษา

หลายประเทศได้นำหลักการ Growth Mindset มาปรับใช้:

  • ฟินแลนด์: เน้นการเรียนรู้ที่หลากหลาย
  • สิงคโปร์: ลดการแข่งขันที่ไม่เสริมสร้าง
  • สหรัฐฯ: เปลี่ยนวิธีการประเมินผลนักเรียน

การพัฒนาองค์กรสมัยใหม่

  • บริษัทเทคโนโลยีใช้หลักการนี้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์
  • การสร้าง innovation culture
  • การจัดการความล้มเหลวอย่างสร้างสรรค์

ข้อควรระวังและข้อจำกัด

การเข้าใจผิดที่พบบ่อย

  1. Growth Mindset ไม่ใช่ทุกอย่าง: ความสามารถธรรมชาติยังสำคัญ
  2. ไม่ใช่เพียงความพยายาม: ต้องมีกลยุทธ์และการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ
  3. ไม่ใช่การละเลยผลลัพท์: ผลลัพท์สำคัญ แต่กระบวนการสำคัญกว่า

การประยุกต์อย่างสมดุล

  • ยอมรับข้อจำกัดของตนเอง
  • เลือกสิ่งที่จะลงทุนเวลาและพลังงาน
  • สร้างความสมดุลระหว่างความท้าทายและความสามารถ

บทเรียนสำคัญ

สำหรับผู้เรียน

  1. เน้นกระบวนการ มากกว่าผลลัพท์
  2. ยอมรับความผิดพลาด เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้
  3. สร้างนิสัยการเรียนรู้ ตลอดชีวิต

สำหรับผู้สอน/ผู้นำ

  1. ให้ feedback ที่มุ่งเน้นความพยายาม และกระบวนการ
  2. สร้างสภาพแวดล้อม ที่ปลอดภัยสำหรับการทดลอง
  3. เป็นแบบอย่าง ในการเรียนรู้จากความผิดพลาด

บทสรุป

Carol Dweck ได้แสดงให้เห็นว่า วิธีคิดของเรามีอำนาจเปลี่ยนแปลงได้มากกว่าที่คิด การเปลี่ยนจาก Fixed Mindset เป็น Growth Mindset ไม่เพียงแต่จะช่วยให้เราเรียนรู้ได้ดีขึ้น แต่ยังทำให้เรามีความสุขและความมั่นใจในการเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ

คำพูดที่โด่งดัง: “In a growth mindset, challenges are exciting rather than threatening. So rather than thinking, oh, I’m going to reveal my weaknesses, you think, wow, here’s a chance to grow.”

การทำงานของ Dweck เตือนใจเราว่า ความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับความฉลาดที่เราเกิดมา แต่ขึ้นอยู่กับวิธีคิดและความตั้งใจที่จะเรียนรู้และพัฒนาตัวเอง อย่างต่อเนื่อง

บุคคลที่เกี่ยวข้อง

ค้นพบบุคคลอื่นๆ ที่น่าสนใจและสร้างแรงบันดาลใจ

แสดงบุคคล 1- 6 จากทั้งหมด 107 คน (หน้า 1 จาก 18)