Dr. David Rock ผู้ก่อตั้งแนวคิด “Neuroleadership” และผู้อำนวยการ NeuroLeadership Institute นำเสนอ วิธีการใช้ความเข้าใจเกี่ยวกับสมอง เพื่อปรับแต่งวิธีการทำงานให้สอดคล้องกับแนวโน้ม รูปแบบ และสัญชาตญาณของสมอง เพื่อ ประสิทธิผลและความสำเร็จที่สูงขึ้น

ความเป็นมาและความสำคัญ

ผู้เชี่ยวชาญด้าน Neuroleadership

Dr. David Rock เป็น:

• ผู้คิดค้นคำว่า “Neuroleadership”
• ผู้อำนวยการ NeuroLeadership Institute
• นักวิจัยที่รวมนักประสาทวิทยาและผู้เชี่ยวชาญด้านผู้นำ

แรงบันดาลใจในการเขียน

เมื่อไม่พบหนังสือที่อธิบาย การค้นพบที่มีประโยชน์ที่สุดเกี่ยวกับสมอง ในภาษาที่เข้าใจง่ายสำหรับคนทำงาน เขาจึงตัดสินใจเขียนเอง

แนวคิดหลัก: สมองคือเวทีการแสดง

การเปรียบเทียบที่เข้าใจง่าย

Rock เปรียบเทียบสมองกับ เวทีการแสดง:

• เวทีสามารถรองรับนักแสดงได้เพียงไม่กี่คน
• ก่อนที่การแสดงจะเริ่มวุ่นวาย
• ต้องใช้พลังงาน (แสง) มากในการทำงาน

Pre-frontal Cortex: โรงละครเล็กๆ

• เหมือนเวทีโรงละครเล็กๆ ที่รองรับคนได้เพียงหยิบมือ
• ต้องใช้พลังงานมาก ในการทำงาน (คิด)
• ทำได้เพียงงานเดียวอย่างมีประสิทธิผล

โครงสร้างการเล่าเรื่อง

การใช้ตัวละครในการอธิบาย

Rock ใช้ เรื่องเล่าของ Paul และ Emily เป็นตัวอย่าง:

• สถานการณ์ “ก่อน” ที่ตัดสินใจผิด
• สถานการณ์ “หลัง” เมื่อเข้าใจการทำงานของสมองแล้ว
• การเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรม

หลักการสำคัญ 1: การโฟกัสและงานเดี่ยว

ข้อแนะนำแรกสำหรับประสิทธิผล

• ให้เวลาพอสำหรับการคิดโดยไม่ถูกขัดจังหวะ
• โฟกัสในขณะแก้ปัญหาสำคัญ
• ปิดสิ่งรบกวนทั้งหมด

การจัดการวันอย่างฉลาด

• กำหนดความสำคัญตั้งแต่เช้า
• สำรองเวลาสำหรับงานสำคัญ
• หลีกเลี่ยงโซเชียลมีเดีย ประชุม โทรศัพท์

ผลกระทบของการทำหลายอย่างพร้อมกัน

เมื่อเพิ่มงานที่สอง สมองจะประสบ “dual-task interference”:

• แต่ละงานขัดขวางกัน
• ประสิทธิภาพและคุณภาพลดครึ่งหนึ่ง
• ไม่สามารถทำงานใดงานหนึ่งได้อย่างเหมาะสม

หลักการสำคัญ 2: โมเดล SCARF

กรอบความคิดสำหรับการมีอิทธิพล

เพื่อ มีอิทธิพลและสร้างความผูกพันกับผู้อื่น ต้องเพิ่ม สถานะรางวัล และไม่คุกคาม:

S - Status (สถานะ)

• ไม่ทำให้ผู้อื่นเสียหน้า
• ให้เกียรติและยกย่อง
• เคารพตำแหน่งและบทบาท

C - Certainty (ความแน่นอน)

• ให้ข้อมูลที่ชัดเจน
• ลดความไม่แน่นอน
• สื่อสารแผนและทิศทาง

A - Autonomy (อิสรภาพ)

• ให้สิทธิ์ในการตัดสินใจ
• เคารพการเลือกของผู้อื่น
• ไม่บังคับหรือควบคุมมากเกินไป

R - Relatedness (ความเชื่อมโยง)

• สร้างความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม
• แสดงความห่วงใยและเข้าใจ
• สร้างสายสัมพันธ์ที่มีความหมาย

F - Fairness (ความยุติธรรม)

• ปฏิบัติอย่างเป็นธรรม
• โปร่งใสในการตัดสินใจ
• ให้โอกาสอย่างเท่าเทียม

หลักการสำคัญ 3: การมองเห็นและการแก้ปัญหา

ปรากฏการณ์ Impasse

• ง่ายต่อการติดอยู่กับชุดโซลูชันเดิม
• จำเป็นต้องให้สมองพัก เพื่อลดการทำงานของคำตอบผิด
• การมีมุมมองใหม่ต้องอาศัยจิตใจที่เงียบสงบ

เงื่อนไขสำหรับ Insight

การมี insight ต้องการ:

• การฟังสัญญาณที่ละเอียดอ่อน
• การให้การเชื่อมต่ออย่างหลวมๆ
• จิตใจที่เงียบ มีกิจกรรมทางไฟฟ้าน้อยที่สุด
• ความผ่อนคลายและความสุข

วิธีการเพิ่ม Insight

• เปลี่ยนการให้ความสนใจและเพิ่มการสะท้อน
• มองเข้าไปข้างในด้วย mindfulness
• หยุดพักเพื่อเปลี่ยนมุมมอง
• แบ่งปัญหาซับซ้อนเป็นส่วนเล็กๆ
• ใช้ภาพและการวาด

การรับรองจากผู้เชี่ยวชาญ

คำชมเชยจากนักอ่าน

• “หนังสือที่มีประโยชน์ที่สุดเกี่ยวกับประสิทธิผล”
• “เต็มไปด้วยข้อมูลที่มีประโยชน์เกี่ยวกับการทำงานของสมอง”
• “สนับสนุนด้วยประสาทวิทยาศาสตร์”

ข้อดีเด่น

• คำอธิบายที่เข้าถึงได้และปฏิบัติได้
• การค้นพบที่มีประโยชน์เกี่ยวกับสมองในภาษาง่าย
• กลยุทธ์ที่มีการสนับสนุนจากการวิจัย

การรับรองจาก Happy Brain Science

“แนะนำ Your Brain at Work ให้กับทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่แสวงหาการเติบโตและการเปลี่ยนแปลงในการทำงาน”

ข้อสำคัญสำหรับการปฏิบัติ

การเริ่มต้นวัน

• กำหนดความสำคัญตั้งแต่เริ่มวันทำงาน
• โฟกัสในงานเดียวเป็นระยะเวลานาน
• หลีกเลี่ยงสิ่งรบกวน

เมื่อต้องการ Insight

• เปลี่ยนความสนใจและเพิ่มการสะท้อน
• มองข้างในด้วย mindfulness**
• หยุดพักเพื่อเปลี่ยนมุมมอง

การมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น

จำความสำคัญของ SCARF:

• Status, Certainty, Autonomy, Relatedness, Fairness

ความเหมาะสมและการประยุกต์

กลุ่มเป้าหมาย

หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับ:

• ผู้ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิผลการทำงาน
• ผู้นำและผู้บริหาร
• นักศึกษาและผู้เรียนรู้
• ผู้ที่ต้องการเข้าใจการทำงานของสมอง

การปฏิบัติในชีวิตจริง

• ที่ทำงาน - การจัดการเวลาและสมาธิ
• ที่โรงเรียน - เทคนิคการเรียนรู้
• ในชีวิตทั่วไป - การปรับปรุงประสิทธิผล

ผลกระทบและมรดก

การสร้างสาขาใหม่

• Neuroleadership กลายเป็นสาขาการศึกษาใหม่
• การรวมประสาทวิทยาและการพัฒนาผู้นำ
• NeuroLeadership Institute เป็นองค์กรระดับโลก

ข้อความสำคัญ

“การเข้าใจการทำงานของสมองช่วยปรับปรุงประสิทธิผลและความเป็นอยู่ที่ดี”

วิทยาศาสตร์สู่การทำงานที่ชาญฉลาด - เมื่อเข้าใจสมอง การทำงานจึงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป