Job Moves

เกี่ยวกับหนังสือ “Job Moves”

“Job Moves” โดย Ethan Bernstein, Michael B. Horn, และ Bob Moesta เป็นหนังสือที่นำเสนอแนวทางใหม่ในการพัฒนาอาชีพการงาน โดยเน้นการตัดสินใจที่มีกลยุทธ์และการวางแผนระยะยาวแทนการเปลี่ยนงานแบบไม่มีทิศทาง

หนังสือเล่มนี้เกิดจากการวิจัยและประสบการณ์ของผู้เขียนที่มีพื้นฐานทางธุรกิจ การศึกษา และการพัฒนาองค์กร โดยนำเสนอ 9 ขั้นตอนที่ชัดเจนและใช้ได้จริงในการสร้างการก้าวหน้าในอาชีพ

แนวคิดหลักของหนังสือคือการมองอาชีพเป็น “งาน” (Job) ที่ต้องทำให้สำเร็จ ไม่ใช่เพียงแค่ตำแหน่งหน้าที่ และการ “เคลื่อนไหว” (Moves) ที่เป็นกลยุทธ์ในการพัฒนาตนเองและสร้างโอกาส

แนวคิดพื้นฐาน: การมองอาชีพในมุมใหม่

การเปลี่ยนจากการหางาน เป็น การสร้างอาชีพ

มุมมองแบบเก่า:

  • มองว่าอาชีพเป็นลำดับของตำแหน่งงาน
  • เน้นการหาเงินเดือนที่สูงขึ้น
  • ตัดสินใจแบบปฏิกิริยาตอบสนอง

มุมมองแบบใหม่:

  • มองอาชีพเป็นการทำ “งาน” ที่มีความหมาย
  • เน้นการสร้างคุณค่าและผลกระทบ
  • ตัดสินใจแบบเชิงกลยุทธ์และมีวัตถุประสงค์

การประยุกต์ใช้ในบริบทไทย:

  • เข้าใจว่าความสำเร็จในสังคมไทยไม่ได้วัดแค่เงินเดือน
  • พิจารณาการสร้างสมดุลระหว่างการทำงานและครอบครัว
  • มองการทำงานเป็นการสร้างประโยชน์ให้สังคม

การทำความเข้าใจ “งาน” ที่แท้จริง

Jobs Theory ในอาชีพ:

  • ทุกตำแหน่งมี “งาน” ที่ต้องทำให้สำเร็จ
  • เข้าใจงานจริงที่องค์กรต้องการให้เราทำ
  • การสร้างคุณค่าที่วัดผลได้

การระบุงานหลักของตัวเอง:

  • งานที่เราทำได้ดีที่สุด (Strengths)
  • งานที่เราชอบทำ (Passion)
  • งานที่โลกต้องการ (Market Need)
  • งานที่สร้างรายได้ได้ (Economic Value)

9 ขั้นตอนการก้าวหน้าในอาชีพ

ขั้นตอนที่ 1: การกำหนดเป้าหมายอาชีพ (Define Your Career Goal)

การสร้างวิสัยทัศน์อาชีพ:

  • ระบุสิ่งที่ต้องการบรรลุในระยะ 5-10 ปี
  • เข้าใจแรงจูงใจภายในที่แท้จริง
  • สร้างความชัดเจนเรื่องความสำเร็จส่วนตัว

การวางแผนย้อนกลับ:

  • เริ่มจากเป้าหมายสุดท้าย
  • แบ่งเป็นขั้นตอนย่อยๆ
  • กำหนด milestone ที่วัดผลได้

สำหรับผู้ทำงานในไทย:

  • พิจารณาโอกาสในตลาดแรงงานไทย
  • เข้าใจเทรนด์อุตสาหกรรมในภูมิภาค
  • สร้างสมดุลระหว่างความฝันและความเป็นจริง

ขั้นตอนที่ 2: การประเมินสถานะปัจจุบัน (Assess Your Current State)

การทำ Skills Audit:

  • ระบุทักษะที่มีอยู่ในปัจจุบัน
  • ประเมินระดับความเชี่ยวชาญ
  • หาช่องว่างระหว่างสถานะปัจจุบันและเป้าหมาย

การวิเคราะห์ตำแหน่งปัจจุบัน:

  • งานที่กำลังทำอยู่สร้างคุณค่าอย่างไร
  • โอกาสในการเรียนรู้และเติบโต
  • ข้อจำกัดและอุปสรรค

การรับฟัง 360-Degree Feedback:

  • ความคิดเห็นจากผู้บังคับบัญชา
  • มุมมองจากเพื่อนร่วมงาน
  • การประเมินจากผู้ใต้บังคับบัญชา (ถ้ามี)

ขั้นตอนที่ 3: การระบุช่องว่าง (Identify the Gap)

Gap Analysis:

  • ความรู้และทักษะที่ขาดหายไป
  • ประสบการณ์ที่จำเป็นต้องได้รับ
  • เครือข่ายและความสัมพันธ์ที่ต้องสร้าง

การจัดลำดับความสำคัญ:

  • ช่องว่างไหนสำคัญที่สุด
  • อะไรที่แก้ได้ง่ายและเร็ว
  • สิ่งใดที่ต้องใช้เวลายาว

การหาโอกาสในองค์กรปัจจุบัน:

  • โครงการที่สามารถเรียนรู้ทักษะใหม่
  • ตำแหน่งที่เปิดให้ rotate หรือ stretch assignment
  • การฝึกอบรมและพัฒนาที่องค์กรมี

ขั้นตอนที่ 4: การสร้างแผนการพัฒนา (Create Development Plan)

การออกแบบการเรียนรู้:

  • การเรียนรู้จากงานจริง (70%)
  • การเรียนรู้จากคนอื่น (20%)
  • การเรียนรู้จากหลักสูตรและหนังสือ (10%)

การกำหนดเป้าหมายระยะสั้น:

  • ทักษะที่จะพัฒนาใน 6 เดือน
  • โครงการหรือประสบการณ์ที่จะหาใน 1 ปี
  • ผลงานที่จะสร้างเพื่อแสดงความสามารถ

การวางแผนการลงทุนในตัวเอง:

  • งบประมาณสำหรับการเรียนรู้
  • เวลาที่จะใช้ในการพัฒนาตนเอง
  • ทรัพยากรที่จำเป็น

ขั้นตอนที่ 5: การสร้างเครือข่าย (Build Your Network)

การสร้างความสัมพันธ์ที่มีคุณค่า:

  • ผู้ที่อยู่ในตำแหน่งที่เราต้องการไป
  • คนที่สามารถให้คำแนะนำและ mentor
  • เพื่อนร่วมงานที่สามารถช่วยเหลือกัน

การให้ก่อนที่จะขอ:

  • หาวิธีช่วยเหลือผู้อื่นก่อน
  • แบ่งปันความรู้และประสบการณ์
  • สร้างความน่าเชื่อถือและไว้วางใจ

การรักษาเครือข่าย:

  • ติดต่อกันอย่างสม่ำเสมอ
  • จำวันสำคัญและส่งความห่วงใย
  • เป็นคนที่คนอื่นนึกถึงเมื่อมีโอกาส

ขั้นตอนที่ 6: การสร้างแบรนด์ส่วนตัว (Build Your Personal Brand)

การกำหนดตัวตนทางอาชีพ:

  • สิ่งที่เราเก่งและมีชื่อเสียง
  • คุณค่าที่เราสร้างให้องค์กร
  • ลักษณะเด่นที่ทำให้เราโดดเด่น

การสื่อสารแบรนด์:

  • การเขียน LinkedIn Profile ที่น่าสนใจ
  • การแบ่งปันความรู้และไอเดีย
  • การสร้างผลงานที่เป็นที่รู้จัก

การรักษาชื่อเสียง:

  • การทำงานอย่างมีคุณภาพอย่างสม่ำเสมอ
  • การรักษาคำพูดและข้อตกลง
  • การสร้างผลกระทบเชิงบวก

ขั้นตอนที่ 7: การหาโอกาสใหม่ (Seek New Opportunities)

การติดตามโอกาส:

  • ช่องทางการหางานที่หลากหลาย
  • การใช้เครือข่ายในการหาข้อมูล
  • การติดตามข่าวสารอุตสาหกรรม

การประเมินโอกาส:

  • โอกาสไหนตรงกับเป้าหมายอาชีพ
  • สิ่งที่จะได้เรียนรู้และพัฒนา
  • การเติบโตในระยะยาว

การเตรียมตัวสำหรับการสมัครงาน:

  • Resume ที่เน้นผลงานและผลกระทบ
  • การเตรียมตัวสัมภาษณ์อย่างจริงจัง
  • การค้นคว้าข้อมูลบริษัทและตำแหน่ง

ขั้นตอนที่ 8: การเจรจาต่อรอง (Negotiate Strategically)

การเตรียมตัวเจรจา:

  • ข้อมูลเงินเดือนในตลาด
  • คุณค่าที่เราจะนำมาให้องค์กร
  • สิ่งที่สำคัญนอกจากเงินเดือน

เทคนิคการเจรจา:

  • การสร้าง win-win situation
  • การเจรจาทั้งแพ็กเกจไม่ใช่แค่เงินเดือน
  • การแสดงความยืดหยุ่นและความเข้าใจ

การเจรจาในบริบทไทย:

  • ความเหมาะสมทางวัฒนธรรม
  • การเจรจาอย่างสุภาพและให้เกียรติ
  • การพิจารณาผลประโยชน์ระยะยาว

ขั้นตอนที่ 9: การปรับตัวและการเติบโต (Adapt and Grow)

การเข้าสู่งานใหม่:

  • การเรียนรู้วัฒนธรรมองค์กรใหม่
  • การสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน
  • การสร้างผลงานเร็วและมีคุณภาพ

การประเมินและปรับแผน:

  • ทบทวนเป้าหมายตามสถานการณ์ใหม่
  • ปรับแผนการพัฒนาตามโอกาสที่มี
  • เตรียมตัวสำหรับการเคลื่ อนไหวครั้งต่อไป

การเรียนรู้ต่อเนื่อง:

  • การอัพเดทความรู้และทักษะ
  • การสร้างเครือข่ายใหม่
  • การมองหาโอกาสการเติบโตต่อไป

การประยุกต์ใช้ในตลาดแรงงานไทย

ความเข้าใจตลาดแรงงานไทย

โครงสร้างอุตสาหกรรม:

  • อุตสาหกรรมแปรรูปและการผลิต
  • ภาคบริการและการท่องเที่ยว
  • เศรษฐกิจดิจิทัลที่เติบโตเร็ว

โอกาสและความท้าทาย:

  • การเปลี่ยนแปลงไปสู่ดิจิทัล
  • ความต้องการ soft skills
  • การแข่งขันกับ talent จากต่างประเทศ

วัฒนธรรมการทำงานไทย:

  • ความสำคัญของความสัมพันธ์
  • การเคารพอาวุโส
  • ความยืดหยุ่นและการปรับตัว

กลยุทธ์เฉพาะสำหรับคนไทย

การสร้างความได้เปรียบ:

  • ความเข้าใจตลาดไทยและเอเชีย
  • ทักษะภาษาและวัฒนธรรม
  • ความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์

การพัฒนาทักษะที่ขาดแคลน:

  • ทักษะดิจิทัล
  • ภาษาอังกฤษและภาษาที่สาม
  • ทักษะการวิเคราะห์ข้อมูล

การใช้ประโยชน์จากโอกาส:

  • การเติบโตของ startup ecosystem
  • โอกาสจาก ASEAN integration
  • การลงทุนจากต่างประเทศ

การสร้างแผนอาชีพในบริบทไทย

การวางแผนระยะสั้น (1-2 ปี):

  • การสร้างประสบการณ์ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย
  • การพัฒนาทักษะที่ขาดแคลนในตลาด
  • การสร้างเครือข่ายในวงการ

การวางแผนระยะกลาง (3-5 ปี):

  • การก้าวสู่ตำแหน่งผู้นำ
  • การสร้างความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
  • การขยายเครือข่ายระดับภูมิภาค

การวางแผนระยะยาว (5-10 ปี):

  • การสร้างผลกระทบในอุตสาหกรรม
  • การเป็นผู้นำทางความคิด
  • การสร้าง legacy และมรดกทางอาชีพ

ความท้าทายและการแก้ไข

ความท้าทายทั่วไป

การขาดความชัดเจนในเป้าหมาย:

  • การใช้เวลาไตร่ตรองและค้นหาตัวเอง
  • การทดลองผ่าน side project หรือ volunteering
  • การพูดคุยกับ mentor และ career counselor

การกลัวความเสี่ยง:

  • การเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ
  • การสร้าง financial cushion ก่อนเปลี่ยนงาน
  • การหาข้อมูลและเตรียมตัวอย่างดี

การขาดทักษะที่จำเป็น:

  • การสร้างแผนการพัฒนาทักษะที่ชัดเจน
  • การใช้ online courses และ certification
  • การหา mentoring และ coaching

ความท้าทายในบริบทไทย

ความคาดหวังจากครอบครัว:

  • การสื่อสารและสร้างความเข้าใจ
  • การแสดงแผนและผลตอบแทนที่ชัดเจน
  • การสร้างสมดุลระหว่างความฝันและความรับผิดชอบ

การแข่งขันที่สูง:

  • การสร้างความแตกต่างและความได้เปรียบ
  • การพัฒนาทักษะที่หายากในตลาด
  • การสร้าง personal brand ที่โดดเด่น

ข้อจำกัดด้านโอกาส:

  • การมองหาโอกาสในตลาดใหม่
  • การสร้างโอกาสด้วยตัวเอง
  • การใช้เทคโนโลยีขยายโอกาส

เครื่องมือและเทคนิค

เครื่องมือการประเมินตนเอง

Skills Assessment:

  • การทำแบบทดสอบออนไลน์
  • การขอ feedback จากคนรอบข้าง
  • การวิเคราะห์ผลงานที่ผ่านมา

Personality และ Career Test:

  • MBTI, DISC, StrengthsFinder
  • Career aptitude tests
  • Values และ interests assessment

การทำ SWOT Analysis:

  • Strengths: จุดแข็งส่วนตัว
  • Weaknesses: จุดที่ต้องพัฒนา
  • Opportunities: โอกาสในตลาด
  • Threats: อุปสรรคและความท้าทาย

เครื่องมือการวางแผน

Career Mapping:

  • การสร้างแผนที่อาชีพ
  • การกำหนด milestone ที่ชัดเจน
  • การติดตามความก้าวหน้า

Goal Setting Framework:

  • SMART goals (Specific, Measurable, Achievable, Relevant, Time-bound)
  • OKR (Objectives and Key Results)
  • การทบทวนและปรับแผนเป็นประจำ

Time Management:

  • การจัดสรรเวลาสำหรับการพัฒนาอาชีพ
  • การสร้างกิจวัตรการเรียนรู้
  • การติดตามการใช้เวลา

การวัดผลและการปรับปรุง

ตัวชี้วัดความสำเร็จ

ตัวชี้วัดเชิงปริมาณ:

  • การเพิ่มขึ้นของเงินเดือนและสวัสดิการ
  • การเลื่อนตำแหน่งและความรับผิดชอบ
  • จำนวนโอกาสและข้อเสนองานที่ได้รับ

ตัวชี้วัดเชิงคุณภาพ:

  • ความพึงพอใจในงาน
  • การเรียนรู้และการพัฒนาทักษะ
  • ผลกระทบและการสร้างคุณค่า

ตัวชี้วัดเชิงสัมพันธ์:

  • ความแข็งแกร่งของเครือข่าย
  • การยอมรับจากเพื่อนร่วมวงการ
  • การได้รับเชิญเป็น speaker หรือ advisor

การปรับปรุงแผนอย่างต่อเนื่อง

การทบทวนเป็นระยะ:

  • ทบทวนเป้าหมายทุก 6 เดือน
  • ประเมินความก้าวหน้าและปรับแผน
  • เปลี่ยนกลยุทธ์ตามสถานการณ์

การเรียนรู้จากความล้มเหลว:

  • วิเคราะห์สาเหตุที่ไม่สำเร็จ
  • ปรับปรุงวิธีการและแนวทาง
  • ใช้ประสบการณ์ในการตัดสินใจครั้งต่อไป

ประโยชน์ของการปฏิบัติตาม Job Moves

ประโยชน์ระยะสั้น

ความชัดเจนในทิศทาง:

  • รู้ว่าต้องการอะไรจากอาชีพ
  • มีแผนการพัฒนาที่ชัดเจน
  • ลดความสับสนและความวิตกกังวล

การเพิ่มโอกาส:

  • ได้รับข้อเสนองานที่ดีขึ้น
  • สร้างเครือข่ายที่กว้างขึ้น
  • เพิ่มทักษะและความสามารถ

ประโยชน์ระยะยาว

ความมั่นคงทางอาชีพ:

  • มีทักษะที่ตลาดต้องการ
  • สร้าง personal brand ที่แข็งแกร่ง
  • มีทางเลือกมากมายในอนาคต

ความสำเร็จและความพึงพอใจ:

  • ทำงานที่มีความหมายและท้าทาย
  • สร้างผลกระทบที่มีคุณค่า
  • มีสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัว

การนำไปปฏิบัติ

สำหรับผู้เริ่มต้นอาชีพ

การเตรียมตัว:

  • ทำความเข้าใจตัวเองและความสนใจ
  • สำรวจอุตสาหกรรมและโอกาสต่างๆ
  • สร้างพื้นฐานทักษะที่แข็งแกร่ง

การเริ่มต้น:

  • หาโอกาสในการเรียนรู้และลองผิดลองถูก
  • สร้างเครือข่ายและความสัมพันธ์
  • สะสมประสบการณ์ที่หลากหลาย

สำหรับผู้ที่มีประสบการณ์

การประเมินใหม่:

  • ทบทวนเป้าหมายและความต้องการปัจจุบัน
  • ประเมินทักษะและความสามารถที่มี
  • หาโอกาสในการเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาต่อ

การก้าวต่อไป:

  • การเป็น mentor หรือ coach สำหรับคนอื่น
  • การสร้างผลกระทบในระดับที่ใหญ่ขึ้น
  • การวางแผนสำหรับการเกษียณหรือ career transition

“Job Moves” เป็นคู่มือที่จำเป็นสำหรับทุกคนที่ต้องการสร้างอาชีพที่ประสบความสำเร็จและมีความหมาย โดยการใช้กลยุทธ์และการวางแผนแทนการเดินไปตามสถานการณ์

หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับคนทุกช่วงอายุของอาชีพ ตั้งแต่ผู้เริ่มต้นจนถึงผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาอาชีพต่อ การนำหลักการเหล่านี้มาใช้ในบริบทไทยจะช่วยสร้างพลเมืองที่มีทักษะสูงและสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก

สิ่งสำคัญคือการเข้าใจว่าการพัฒนาอาชีพเป็นกระบวนการต่อเนื่องที่ต้องการความมุ่งมั่น ความอดทน และการเรียนรู้อยู่เสมอ การมี “job moves” ที่ดีจะนำไปสู่ชีวิตการทำงานที่มีความสุขและประสบความสำเร็จ